ศิริภรณ์ ลักษณะสุต
บันทึก 25 ธค. 2554
แจ้งเกิด โรงพยาบาลภูมิพล 26 มีค.2514
บิดา นายทหารอากาศ
มารดา แม่บ้าน
พี่น้อง 5 คน คนที่ 5
การศึกษา ระดับประถม-มัธยม โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ,
ระดับปวช. จักรพงษภูวนารถ ,
ระดับปริญญาตรี เคยศึกษาวค.จันทรเกษม วทบ.คอมพิวเตอร์
มสธ.นิเทศศาสตร์ ,นิติศาสตร์รามคำแห่ง
ระดับปริญญาโท MBA.มหาวัิทยาลัยปทุมธานี
ระดับปริญญาเอก กำลังศึกษาที่ มหาวิทยาลัยปทุมธานี D.B.A
การทำงาน
กลุ่มกระจกเงา นิตยสารดิเอริธ์2000
หนังสือพิมพ์ไทย.หนังสือพิมพ์เดลินิวส์, ITV,
นักดนตรีโฟลค์ซอง วง ใบตอง
ผู้จัดการภาคไทยพาณิชย์นิวยอร์ไลฟ์,
ผจก.การตลาดโรงงานเภสัชอุตสาหกรรมค็อกซ์
โรงงานเภสัชอุตสาหกรรมเจเอสพี.
ผู้บริหารงาน บจก.แม็กซ์ซิไมค์ ,
เจ้าของบริษัทแม็คซ์ดับเบิ้ลทู จำกัด
อาจารย์อบรมระดับsuppervisor
อนาคตเรื่องงาน ตั้งใจจะทำธุรกิจมากมาย เพื่อสร้างอาชีพ ให้กับหลายคน
สร้างกลุ่มคน ร่วมสร้างสรรค์ แบ่งบันให้ได้มากที่สุด ให้หลาย ๆ คนมีโอกาสที่ดี
เป็นหุ้นส่วนร่วมกันมากกว่า การเป็นลูกจ้าง ยังอยากเปิดร้านกาแฟ และฝึกอบรมให้กับนักศึกษาที่จะเข้าสู่สังคมการทำงาน เปิดร้านซ่อมรถ ร้านยาสมุนไพรฯลฯ
เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว สุดท้ายกับงานเขียนหนังสือต่อไป ที่สำคัญ อยากเขียน
หนังสือที่ทำให้หลายคนอ่านแล้วมีรอยยิ้มให้ได้มากที่สุด
email: bymylak@gmail.com
tel: 0909717516

ครอบครัว มีบุตรสาว 1 คน เกิด 31 พค 2547 วันจันทร์
ชื่อเด็กหญิงวาดฟ้า ลักษณะสุต ชื่อเล่น น้องปั้นเมฆ สั้น ๆ ว่าปั้น
และพ่อของปั้นชื่อ ทวี ผ่องศรีใส ศิลปินทำเรือใบ
ความรักเป็นไง รักทุกสิ่ง รักในสิ่งที่ทำ รักในสิ่งที่ตัดสินใจ ทุกเรื่องราว ไม่ว่า
รักนั้นจะสุขหรือทุกข์ เพราะความสุขและทุกข์นั่นที่ทำให้เรารัก
ทุกสิ่งที่เข้ามาให้เราได้ทำ หรือคิดและทำออกไป รักในเสียง
หัวเราะ และ น้ำตา ที่ทำให้เรามีความเป็นชีวิตในทุก ๆวัน
สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ลมหายใจและร่างกาย ครบ 32 ของฉันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเป็นของขวัญที่ดีที่สุด ที่นำไปสิ่งต่าง ๆ มากมาย
สิ่งที่ผ่านมาในชีวิตอะไรเศร้าที่สุด การมีชีวิต เป็นสิ่งที่เศร้าที่สุด เราจึงเกิดมาหาความสุขตลอดเวลา และถามหาความหมายความสุข ไม่ว่าความสุขเล็กหรือใหญ่ จับต้องได้ จับต้องไม่ได้ เรามักค้นหาไม่ว่าจะในซอกหลืบใด นั่นแหละเศร้าที่สุด ถ้าถามทางกลับกัน อะไรคือความสุขที่สุด ก็การมีชีวิตนี่แหละที่ทำให้ไปหาความสุข
ทำไมถึงเขียนเรื่องราวนี้ เพราะรักการมีชีวิต และมีชีวิตบนโลกนี้เช่นเดียวกับหลายคน มันคือพยานการมีชีวิตของเรา
หากฉันเพาะเมล็ดหนึ่งลงบนโลกนี้ คงไม่มีใครมาโปรโมทให้คุณมารู้จักฉันได้หรอก และฉันคงไม่รอสิ่งเหล่านั้นมาเยือน ฉันชอบเยี่ยมเยือนมากกว่า เราสร้างโอกาส ไม่รอโอกาส
ภาพมากมายจะกลายเป็นเพียงความทรงจำบาง ๆ ลงไป จนบางครั้งความทรงจำบนกระดาษ ก็จางด้วยเช่นกัน แต่การเขียนลงในปล็อกก็คงจะนานได้มากขึ้น รู้สึกแบบนั้น เพราะฉันเองก็ไม่รู้อนาคต แต่เชื่อในความคงอยู่
บางคนบอกว่า ชั่งกล้าหาญนะ ที่กล้าเขียนเรื่องตัวเอง
ไม่ได้ใช้ความกล้าหาญหรอก แค่คิดทำ ก็ทำ ไม่มีเหตุผลมากมาย
ทำไป เท่าที่ที่เราอยากทำ ส่วนอื่น จะกลับมาโน้นนี่นั่น มากเหตุผล
ก็ไม่เห็นว่าจะสำคัญเลย การวิจารณ์เกิดขึ้นเพราะให้ความสำคัญ ฉัน
คงรู้สึกดี มากกว่ารายละเอียดการวิจารณ์ รู้สึกดีที่มันกลายมาเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับตัวเรา มันสำคัญไปแล้วเมื่อลงมือ สำคัญว่าเรามีความคิดที่สำคัญในตัวเองหรือเปล่านะ
แก้ไขล่า 29 สค 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น